หากเรามองกลับไปในอดีต, อัษฎา พานิชกุล หรือที่เราคุ้นหูกับชื่อเล่น “อั๊ต” จะมาพร้อมกับพรสวรรค์ของความสามารถที่หลากหลาย จากนักแสดง, นายแบบ, และพิธีกร ถึงวีเจเอ็มทีวีเอเชีย ที่รู้จักกันในวงกว้าง
อัษฎาเป็นคนไทยที่เกิดที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และเขาได้สิ้นสุดการศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อย่างไรก็ตาม, ที่น่าสนใจคือ เมื่อเขาครบ 17 ปี เขาได้เดินทางกลับมาไทยโดยเหตุผลที่ว่า “คุณพ่อคุณแม่หลอกให้มา”
กลับมาไทยหลังจากการเรียนต่างประเทศ, อัษฎาได้รับโอกาสที่สำคัญในการทดลองทำงานและความสามารถของเขาก็ถูกพบค้น ภายในไม่ช้า, เขาได้รับงานโฆษณาแรกกับแบนฟอร์เมน ทำงานร่วมกับนายแบบอื่น ๆ อย่างเอก โอรี หลังจากนั้น, การทำงานของเขาก็ร่ำลื่น ทั้งงานถ่ายแบบ และงานถ่ายโฆษณาและภาพนิ่ง
อย่างไรก็ตาม, ความสามารถของอัษฎาไม่ได้หยุดอยู่ที่นักแสดงและนายแบบเท่านั้น เขาได้เข้าร่วมเป็นวีเจทางเคเบิลทีวี ช่องสไมล์ทีวี พร้อมกับที่จะเริ่มความสามารถในการแสดงละคร เขาได้เข้าร่วมภาพยนตร์เรื่องแรก “นกน้อยในไร่ส้ม” ทางช่อง 3 ซึ่งเป็นคู่กับลูกน้ำ-พาเมล่า นอกจากนี้ เขายังสร้างชื่อจากภาพยนตร์เรื่อง “คือหัตถาครองพิภพ” และ “บ้านสอยดาว” ทางช่อง 7 และ เรื่อง “คุณชาย และ สงครามดอกรัก”
ความสำเร็จของอัษฎาไม่ได้จำกัดเฉพาะทางไทย เมื่อเขาชนะการออดิชั่นเป็นวีเจเอ็มทีวีในรายการ Bangkok Jam และได้รับเลื่อนขั้นเป็นวีเจเอ็มทีวีเอเชีย ในปี ค.ศ. 1998 เขาทำงานเป็นพิธีกรในรายการ MTV Most Wanted และ MTV at the Movies และเขายังได้ทำงานเป็นพิธีกรงานใหญ่ ๆ ของเอ็มทีวีอย่าง MTV Asia Awards และ MTV World Stage Live in Malaysia หลังจากสิ้นสุดสัญญากับเอ็มทีวีเอเชียในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2011 เขาได้ทำงานกับบริษัท Seven95ive ในการจัดการงานศิลปิน
อัษฎายังเป็นพิธีกรรายการ Incredible Tales 4 ฤดูกาล และได้สร้างชื่อในวงการภาพยนตร์ที่สิงคโปร์ ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Checking In และซีรีส์อื่น ๆ ประมาณ 2-3 เรื่อง รวมถึงซีรีส์ล่าสุด After Hour และรายการแสดงความสามารถที่ชื่อ Live The Dream นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติเป็นพิธีกรมิสเอิร์ธ 2007 ที่ฟิลิปปินส์
ในปี พ.ศ. 2556, อัษฎาเริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิตของเขา โดยกลับมาที่ประเทศไทยและเข้าร่วมทีมบริหารที่ช่องอินแชนแนล มีหน้าที่เป็นพิธีกร และทำงานที่มีผลกระทบสูงต่อวงการวิทยุโทรทัศน์ของไทย
อัษฎา พานิชกุล, หรือ “อั๊ต” คือตัวอย่างที่ดีของความสามารถที่หลากหลายและความมุ่งมั่นที่สูง จากการเริ่มต้นเป็นนักแสดงและนายแบบ, เขาได้ขยายความสามารถของตนเองไปสู่การเป็นวีเจเอ็มทีวีเอเชีย และสุดท้ายกลายเป็นผู้บริหารที่มีผลกระทบสูง และที่สำคัญที่สุด เขาได้ทำทุกอย่างนี้ด้วยความรักและความจงรักภักดีต่องานของเขา ทำให้เราต้องชื่นชมและได้รับแรงบันดาลใจจากเขา
เรียบเรียง เพลงไทยยุค 80-90
ภาพ whatheutt
